ก่อนอื่นเลย เราขอแสดงความยินดีกับผู้ที่มี “ประกันรถยนต์” ไว้ในครอบครอง เพราะแค่ค่าใช้จ่ายจากการมีรถยนต์ก็สูงอยู่แล้ว ไหนจะความเสี่ยงต่างๆ บนถนนที่อาจเกิดขึ้นอีก การมีกรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่เหมาะสมจึงถือเป็นการปกป้องตัวคุณเองจากปัญหาทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ดังนั้น คุณจึงต้องแน่ใจว่ากรมธรรม์ที่คุณมีอยู่ตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้รถอย่างคุณ และเนื่องจากปัจจุบันมี บริษัทประกันรถยนต์ ที่ให้บริการมากมาย คุณอาจจะสับสนว่าจะเปลี่ยนบริษัทประกันดีไหม
วันนี้ เรามีสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงเพื่อประกอบการตัดสินใจหรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์มาแชร์กัน และถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่าตรงกับตัวเอง เราคิดว่า คุณควรเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ได้แล้วล่ะ
1. สิ่งที่ได้รับไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่ปี ตั้งแต่วันแรกที่คุณได้รับกรมธรรม์ประกันรถยนต์ฉบับปัจจุบัน คุณอาจแต่งงาน เปลี่ยนงาน หรือผ่านเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในชีวิต สภาพการเงินของคุณในตอนนี้อาจไม่เหมือนกับตอนนั้นที่คุณเซ็นสัญญากับประกันฉบับนี้แล้วก็ได้
ปัจจุบัน หากคุณเลือกซื้อประกันรถยนต์ คุณคงมีตัวเลือกต่างๆ มากกว่าสมัยยังเป็นหนุ่มสาวเยอะ อย่างน้อยก็น่าจะมีบริษัทหนึ่งที่ให้ข้อเสนอประกันรถยนต์ที่ดีกว่าฉบับปัจจุบันที่คุณมีอยู่ คุณไม่ต้องคอยใช้บริการกับเจ้าเดิมหากคุณสามารถประหยัดเงินได้มากกว่า และยังได้รับบริการในระดับพอๆ กันจากบริษัทอื่น จริงไหมล่ะ?
2. คุณอายุมากขึ้น และฉลาดขึ้น
คุณยังขับรถคันแรกคันนั้นอยู่หรือเปล่า? หากคุณสมัครประกันรถยนต์ช่วงเดียวกับที่ซื้อรถ กรมธรรม์ที่คุณมีอยู่อาจไม่ได้รับการอัพเดทข้อมูล ลองนึกดูว่าตอนนั้นคุณอายุเท่าไร เพราะผู้ให้บริการประกันรถยนต์มักคิดค่าเบี้ยประกันสูงสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ประกันรถยนต์สำหรับมือใหม่หัดขับมักจะแพงกว่า
หากคุณไม่เปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ตอนนี้ คุณอาจยังต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนเดียวกับสมัยก่อนที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวและอ่อนประสบการณ์อยู่ คุณจะต้องตกใจแน่ๆ หากคุณได้เห็นความแตกต่างของราคาเบี้ยประกันรถยนต์เมื่อใช้อายุเป็นเกณฑ์
3. ความต้องการของคุณเปลี่ยนไป
ลองย้อนกลับไปสมัยก่อนสักนิด ตอนนั้นคุณอาจมีเงินพอซื้อแค่ประกันรถยนต์พื้นฐาน งบประมาณที่มีอาจมีพอจ่ายแค่ค่า พ.ร.บ. เท่านั้น
แต่พออายุมากขึ้น คุณอาจรู้สึกถึงความเสี่ยงต่างๆ มากยิ่งขึ้น เช่น อุบัติเหตุ การถูกขโมยรถ และภัยธรรมชาติ เป็นต้น กรมธรรม์ฉบับปัจจุบันของคุณอาจครอบคลุมช่องว่างเหล่านี้ได้ไม่เพียงพอ หรือ บริษัทประกันรถยนต์บริษัทอื่นอาจให้ความคุ้มครองที่ดีกว่าในราคาที่คุณจ่ายไหว สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เหตุผลที่ทำไมคุณถึงควรพิจารณาและมองหาบริษัทที่ดีกว่าสำหรับความคุ้มครองประเภทที่ราคาแพงกว่า
แล้วตอนนี้ควรทำอย่างไรดี?
แม้คุณคิดว่าบริษัทเดิมก็ดีอยู่แล้ว ยังไงคุณก็ควรหาข้อมูลของตัวเลือกจากบริษัทอื่นด้วยทุกๆ ปี และเปรียบเทียบข้อเสนอที่ดีที่สุดจากบริษัทต่างๆ และอย่าตัดสินใจเปลี่ยนบริษัทประกันทันทีนะครับ คุณควรตรวจสอบก่อนว่า หากจะเปลี่ยนบริษัทประกันกลางคัน อาจต้องเช็คว่าต้องเสียค่ายกเลิกบริการหรือเปล่า และอย่าลืมถามบริษัทประกันว่า จะมีการคืนเงินหรือเปล่า เป็นต้น
นอกจากนี้ หากคุณยังคงลังเลอยู่ ลองสอบถามบริษัทประกันปัจจุบันดู เพราะเขาอาจมอบข้อเสนอที่ดีกว่าให้กับคุณเพื่อดึงไม่ให้คุณไปทำประกันกับบริษัทอื่น โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องความคุ้มครองและราคา
และหากคุณคิดว่า จะเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์แน่ๆ คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณได้ยกเลิกกรมธรรม์ของบริษัทเดิมแล้วอย่างเป็นทางการลงบนเอกสาร คุณจะได้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันซ้ำซ้อนทีหลัง และประกันรถยนต์ฉบับใหม่ของคุณควรมีผลก่อนที่ฉบับเก่าจะสิ้นสุดด้วย