เทรนด์ยืดโคนดัดปลายหรือยืดวอลลุ่มเป็นเทรนด์ทรงผมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากการยืดวอลลุ่ม เป็นวิธีที่ดีในการแก้ปัญหาผมหยิกฟู ไม่เป็นทรง โดยเฉพาะผมหยักชี้ฟู ที่ต้องเสียเวลาหนีบผมหน้ากระจกก่อนออกจากบ้าน รวมถึงผมที่ผ่านการยืดแล้วมีลักษณะตรงทื่อ จนทำให้ศีรษะลีบแบน ดูไม่เป็นธรรมชาติ การยืดโคนดัดปลายจึงเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว โดยยืดโคนผมให้ดูพอง มีความหนามากขึ้น ส่วนปลายผมเป็นลอน ดูเป็นทรงที่สวยงามเป็นธรรมชาติ และสามารถจัดทรงได้ง่ายๆ เพียงแค่ไดร์หรือเป่าผมเท่านั้น จึงประหยัดเวลาในการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้มาก ดังนั้นเราจึงมาแนะนำวิธีการ “ยืดโคนดัดปลาย” ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษที่ได้รับความนิยมอย่างมากของหลายๆร้านทำผมในประเทศไทย ให้ทุกคนรู้จัก
การยืดยกโคลนหรือการยืดวอลลุ่มจะแตกต่างจากการยืดผมทั่วไป คือจะใช้เทคนิคพิเศษเฉพาะที่เรียกว่า การยืดยกโคนผม เพื่อทำให้ผมดูมีวอลลุ่มมากขึ้น และได้ลักษณะโคนผมที่ไม่ลีบหรือแบน เหมือนการยืดปกติทั่วไป จึงเป็นเทคนิคความชำนาญของแต่ละร้านทำผมที่ทำให้เกิดวอลลุ่มมากน้อยแตกต่างกัน
การดัดปลายผม หรือ ดัดปลายงุ้ม (C-Curl) นิยมใช้เทคนิคการดัดดิจิตอล (Digital perm) ให้ปลายผมงุ้มเข้าด้านใน เป็นลอนผมรูปตัวซี หรือ C-Curve เนื่องจากปลายผมที่งุ้มเข้าด้านในจะช่วยทำให้ได้ลอนผมแบบเด้งๆ แน่นๆ ดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ร้านทำผมบางร้านยังมีรูปแบบการดัดลอนปลายผมอีกหลากหลายสไตล์ให้ได้เลือกทำ เช่น S-curve, J-curve, O-curve และอาจจะมีรูปแบบการดัดผมอื่นๆตามสไตล์การดัดผมของแต่ละร้านทำผม
ข้อดีของเทคนิคการยืดวอลลุ่ม
- ยืดแล้วโคนผมตรงและมีวอลลุ่มดูไม่ลีบแบน โคนผมไม่หัก
- ได้ทรงผมที่มีวอลลุ่มและลอนถาวร อยู่ทรงนาน 4-6 เดือนขึ้นไป
- สามารถเลือกลักษณะลอนปลายผมได้หลากหลายสไตล์ เช่น รูปตัวC รูปตัวS
- ไม่ต้องเสียเวลาในการหนีบผมก่อนออกจากบ้าน เพียงแค่ไดร์ผมเองที่บ้านก็ได้ทรงที่สวยงามเหมือนตอนเริ่มทำที่ร้าน
- โคนผมดูหนา ดูมีมิติมากขึ้นแต่เป็นทรง มีความพริ้วไหวเป็นธรรมชาติ
- เหมาะสำหรับผู้หญิงผมประบ่า ผมยาว หรือผมบ๊อบสั้นก็สามารถใช้เทคนิคนี้ได้เช่นกัน